คัดเกรดมีประโยชน์ยังไง?
ว่าด้วยเมล็ดกาแฟที่เราเก็บผลผลิตทั้งฤดูกาล แตกต่างที่ช่วงเวลาการเก็บ ทั้งต้นฤดู กลางฤดู หรือท้ายฤดู ต่างมีผลต่อขนาดของเมล็ด และความต่างขนาดของเมล็ดก็ทำให้มีผลต่อรสชาติเช่นกัน

เมล็ดกาแฟกะลาที่แยกเปลือกเชอรี่ออก ก็ยังไม่สามารถรู้ถึงเกรดได้ ต้องกระเทาะเปลือกออกก่อนถึงเห็นสารกาแฟที่มีขนาดจริง โดยส่วนใหญ่ขนาดที่ใช้เรียกเมล็ดกาแฟสาร จะใช้เบอร์ของตระแกรงร่อง ตั้งแต่ เบอร์14ลงไป เรียกว่าเกรดบี เบอร์16ลงไปเรียกว่า เกรดเอ และเบอร์18ลงไปเรียกว่า เกรดเอเอ และยังมีเกรดพีเบอรี่ที่เป็นเม็ดกลมแยกออกมาด้วย
เราจึงจำเป็นต้องแยกเกรดของเมล็ดกาแฟที่ขนาดไม่เท่ากันหลังผ่านเครื่องสีกาแฟ เพื่อให้การคัดเกรด หรือขนาดของเมล็ดให้อยู่ในช่วงเดียวกัน เพื่อทำให้คนคั่วกาแฟคุมโปรไฟล์ได้ง่ายและสามารถดึงมวลสารในเมล็ดออกมาได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งถ้าเทียบกับเมล็ดที่ไม่ได้คัด จะทำให้เม็ดเล็ก หรือพีเบอรี่ สุกก่อน เกรดอื่นๆ และรสชาติที่คนคั่วต้องการก็ไม่สามารถออกได้เท่าที่ควร ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเคยทานกาแฟคั่วอ่อน แล้วมีรสชาติฝาดเหมือนเรากินผักที่ลวกไม่สุก นั่นคือรสชาติของเมล็ดที่คั่วไม่สุก ด้วยเมล็ดที่ใหญ่ และขนาดที่รวมกันอยู่ ทำให้รสชาติที่ออกมาแตกต่างกัน แต่หากลองใช้เกรดเดียวกันในการคั่วอ่อน ผมเชื่อเลยครับว่า รสชาติไม่มีฝาดแน่นอน

เห็นไหมครับ การแยกเกรดเมล็ดมีความสำคัญมากสำหรับการคั่วกาแฟ หากจะสั่งซื้อสาร ควรถามผู้ขายด้วยนะครับว่าเกรดอะไร จะทำให้โรงคั่วกาแฟทำงานได้ง่ายขึ้น และกาแฟที่ค่อยข้างนิ่งเสมอกันทุกหม้อเลยละครับ